“ลิขสิทธิ์การ์ตูนไทย ไปไกลกว่าที่คิด” กับกระแสตอบรับอย่างดีเกินคาด


ทูสปอต" จับมือพันธมิตร “เอไอไทยแลนด์” ส่งคาแรคเตอร์ “บลัดดี้ บันนี่ และเพื่อน”ย�ย� เข้าประเดิม ค่ายใหม่ “เฮ้าส์อ๊อฟการ์ตูน” รุกตลาดธุรกิจลิขสิทธิ์สินค้าไทยโดยเฉพาะ...

นายกฤษณ์ ณ ลำเลียง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทูสปอต คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจคาแรคเตอร์ชั้นนำของประเทศไทยอย่างครบวงจร จับมือร่วมกันกับ นายปริพันธ์ หนุนภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอนนิเมชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายลิขสิทธิ์สินค้าคาแรคเตอร์/การ์ตูน (Licensed Merchandise) เรื่องดังต่างๆ จากประเทศญี่ปุ่น อาทิ โดราเอมอน ดราก้อนบอลซีรี่ย์ ชินจัง ผนึกกำลังสร้างตลาดธุรกิจลิขสิทธิ์สินค้าให้กับคาแรคเตอร์/การ์ตูนไทย (Thai Characters Licenses)

โดยจัดแถลงข่าวเปิดตัวบริษัทน้องใหม่ “เฮ้าส์อ๊อฟการ์ตูน” พร้อมแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนดูแลลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์หลักของทูสปอตซึ่งได้แก่ บลัดดี้บันนี่ (Bloody Bunny) อันสลีพชีพ (Unsleep Sheep) และบีสกิต (Biscuit) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ณ ศูนย์การเรียนรู้เพื่อผู้ประกอบการ SME ชั้น 2 อาคารจามจุรีสแควร์

นายกฤษณ์กล่าวถึงการผนึกกำลังร่วมกันในครั้งนี้ว่า มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเปิดตัวคาแรคเตอร์ของย�ย�ย�ย�ย� ทูสปอตในรูปแบบของลิขสิทธิ์สินค้าให้กับผู้ที่สนใจและพร้อมที่จะร่วมกันเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจในประเทศไทย หลังจากที่ทางทูสปอตได้ทำการเปิดตลาดและประสบความสำเร็จในการเผยแพร่คาเรกเตอร์ในตลาดต่างประเทศมาก่อนหน้านี้ และเพื่อเป็นการต่อยอดลิขสิทธิ์สินค้าให้เข้าสู่ตลาดที่กว้างขวางและหลากหลายขึ้นหลังจากที่ทูสปอตได้ทำการตลาดให้คาแรคเตอร์เหล่านี้เป็นที่ยอมรับในเชิงคุณภาพและความสร้างสรรค์ให้แก่กลุ่มลูกค้าในระดับพรีเมี่ยมแบรนด์มาแล้ว

นายกฤษณ์กล่าวว่า คาแรคเตอร์หลักของทูสปอตที่ได้มอบสิทธิ์ให้กับเฮ้าส์อ๊อฟการ์ตูนประกอบด้วยย�ย�ย�ย�ย�ย�ย� บลัดดี้บันนี่ (Bloody Bunny) อันสลีพชีพ (Unsleep Sheep) และบีสกิต (Biscuit) ซึ่งคาแรคเตอร์ทั้งสามได้มีการวิจัย พัฒนาและทำตลาดมาแล้วกว่า 5 ปี ออกงานแสดงสินค้าในตลาดต่างประเทศทุกปี อาทิเช่นงาน NY Licensing, HK Licensing Tokyo Animation Fair และ Singapore Toy, Game & Comic สำหรับในประเทศไทยคาแรคเตอร์เหล่านี้ได้มีการทำตลาดผ่าน ณ จุดขายของห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ อาทิ Channel V Thailand, สื่อออนไลน์ และนิตยสารวัยรุ่น

จุดแข็งของคาแรคเตอร์ของทูสปอตจะมีเอกลักษณ์และความโดดเด่น รวมถึงความเป็น Emotional Product ให้กับวัยรุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความทันสมัย ซึ่งในอนาคตทูสปอตมีแผนจะขยายสู่ตลาดเด็กแรกเกิด (0-3 ปี) และเด็ก (4-12 ปี) ด้วย เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดสินค้าลิขสิทธิ์

นายกฤษณ์กล่าวต่อไปว่าทูสปอตจึงได้จับมือร่วมกับบ.เอไอไทยแลนด์ฯ ช่วยกันสร้างธุรกิจลิขสิทธิ์สินค้านี้ขึ้น ซึ่งด้วยประสบการณ์และความสามารถพร้อมการบริหารงานอย่างมีระบบสากลของเอไอไทยแลนด์ฯ ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจลิขสิทธิ์สินค้านี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากคาแรคเตอร์/การ์ตูนโดราเอมอน ซึ่งเป็นที่ประจักษ์กันดีในขณะนี้ จะสามารถขับเคลื่อนคาแรคเตอร์ของทูสปอตให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายไปได้ทั่วทั้งประเทศ

ด้านนายปริพันธ์ หนุนภักดี กรรมการผู้จัดการบริษัทแอนนิเมชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจลิขสิทธิ์สินค้าให้กับคาแรคเตอร์จากประเทศญี่ปุ่น จนได้รับการยอมรับจากผู้ร่วมค้าและผู้บริโภค และได้ร่วมทำโปรโมชั่นกับอีกหลากหลายบริษัทชั้นนำ ทางบริษัทฯได้เฝ้าติดตามสามคาแรคเตอร์หลักดังกล่าวของทูสปอตมาเป็นเวลานานพอสมควร และมีความเชื่อมั่นว่าทั้งสามคาแรคเตอร์มีศักยภาพ ทั้งในเชิงรูปลักษณ์ที่สากล เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ มีจุดเด่นเฉพาะตัว สามารถที่จะนำมาพัฒนาให้เป็นลิขสิทธิ์สินค้าได้อย่างแพร่หลายในเชิงการตลาดได้เป็นอย่างดี ทางบริษัทฯจึงได้เจรจากับทางทูสปอตแล้วมีความเห็นตรงกันในเรื่องของการนำเอาคาแรคเตอร์ของคนไทยมาพัฒนาธุรกิจลิขสิทธิ์สินค้าให้เกิดการแพร่หลายและเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ



ดังนั้นเพื่อให้เกิดการทำธุรกิจอย่างเต็มที่และชัดเจน บ.แอนนิเมชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด และ บ.เจเอสแอล โกลบอล มีเดีย จำกัด จึงได้ก่อตั้ง บ.เฮ้าส์อ๊อฟการ์ตูน จำกัด ขึ้นมาเพื่อรองรับการนี้โดยเฉพาะ ทั้งนี้เพื่อความคล่องตัวในการดำเนินงาน อีกทั้งเพื่อประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง บริษัทฯใหม่นี้จะทำการปรับปรุง/เปลี่ยนแปลง/พัฒนาระบบการทำงานให้สอดคล้องและทันต่อความต้องการของตลาดในประเทศไทยโดยเฉพาะ และในอนาคตเมื่อสร้างฐานที่แข็งแรงได้แล้ว ก็จะสร้างสรรค์และพัฒนาคาแรคเตอร์ไทยอื่นๆ ออกสู่ตลาดต่างประเทศในโอกาสต่อๆไป

สำหรับในช่วงปีสองปีแรกนี้ คาดว่าจะสามารถแบ่งส่วนทางการตลาดได้ 10-20 % ของสัดส่วนในธุรกิจลิขสิทธิ์สินค้าคาแรคเตอร์ และตั้งเป้าว่าจะสามารถขยับขึ้นเป็นผู้แทนดูแลลิขสิทธิ์ระดับต้นๆ ได้ภายใน 5 ปีต่อจากนี้ เนื่องจากเราใช้ประสบการณ์/กลยุทธ์การทำตลาดเช่นเดียวกับที่เอไอไทยแลนด์ประสบความสำเร็จมาแล้ว คือการทำงานร่วมกันแบบเป็นพันธมิตร เป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกัน ไม่ได้มองเพียงแต่การขายเท่านั้น เราพยายามเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาธุรกิจกับพันธมิตรเราด้วย เมื่อพันธมิตรของเราเติบโต ก็เท่ากับว่าคาแรคเตอร์ของเราเติบโต และเราต่างร่วมเติบโตไปในตลาดพร้อมกัน นายปริพันธ์กล่าวทิ้งท้าย




ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/life/48141

Leave a Reply